น้ำตาเมีย !! กำลัง “ฟิจเจอริ่ง” กับผัวอยู่ดีๆ จู่ๆมีเสียงเคาะประตูอย่างดัง เปิดประตูแทบผงะ เมื่อรู้ว่าเป็นใคร เข่าทรุดหมดอารมณ์ไปต่อ


ฉันกับเว่ยเฉียงตั้งแต่รู้จักจนคบกันแล้วมาอยู่ด้วยกัน มันเป็นอะไรที่ธรรมดาจนธรรมดาไปกว่านี้อีกไม่ได้แล้ว เขาเป็นหัวหน้าสูงสุดของฉัน ตั้งแต่วันที่ฉันเริ่มทำงานวันแรก เขาก็ดีกับฉันเกินกว่าปกติ ฉันไม่

สบายอยู่หลายครั้ง ทุกครั้งเขาก็จะไปเฝ้าที่โรงพยาบาล ป้อนยาป้อนข้าว เขาเป็นชายในฝันของฉันเลย เหมือนพ่อเหมือนพี่ชาย ตอนแรกๆเลยก็ประทับใจ ต่อมาก็เปลี่ยนเป็นชอบ แล้วก็อยากเป็นผู้หญิงของเขา แต่เขาแก่กว่าฉัน 11 ปี หย่ามาแล้วครั้งนึง มีลูกชายกับเมียคนปัจจุบัน 1 คน

ตอนที่ฉันอายุได้ 12 ปี พ่อเสียชีวิตเพราะป่วยหนัก หน้าที่เลี้ยงดูฉันก็เลยตกเป็นของแม่และพี่ชาย พอเรียนจบมหาลัยฉันก็ไม่อยากให้พวกเขาเป็นพวกห่วงฉันอีก ไม่อยากให้แม่ต้องโทรมาถามคำถามเดิมๆทุกครั้ง แล้วก็ต้องมาพะวงถึงฉันที่ทำงานไกลบ้าน ฉันอยากมีครอบครัวของตัวเอง เพราะงั้นคืนนั้นที่ออฟฟิศ ตอนที่เว่ยเฉียงกุมมือฉันแล้วบอกว่าเขาชอบฉัน ฉันรับรู้ได้ถึงความหวังและความสุขในอนาคต

เว่ยเฉียงเล่าเรื่องชีวิตแต่งงานของเขาให้ฉันฟังอยู่หลายครั้ง พูดถึงเมีย เขาว่าเขาเป็นเพอร์เฟคชั่นนิส ความรักที่สมบูรณ์แบบถึงจะทำให้ชีวิตแต่งงานสมบูรณ์แบบ แล้วฉันก็คือผู้หญิงที่เขารอคอยมาเนิ่นนาน สวรรค์ทดสอบเขามาหลายครั้ง แล้วในที่สุดก็ส่งฉันมาให้เขา ทุกๆประโยคของเขาทำให้ฉันใจเต้นไปเป็นวันๆ

เพื่อฉัน เว่ยเฉียงหย่ากับภรรยาคนปัจจุบัน ฉันไม่ได้ขอร้องให้เขาทำแบบนั้น แต่เขาก็ยังแยกทางกับเธออยู่ดี ตั้งแต่เมียของเขารู้เรื่องระหว่างเขากับฉัน การหย่าก็ดูเหมือนจะเป็นทางออกเดียว เมียของเขาดูสงบมาก ไม่ได้ด่าว่าอะไรฉันเลย แต่ก่อนที่เธอจะเดินจากไป เธอพูดกับฉันว่า “เธอในวันนี้ ก็คือฉันเมื่อ 9 ปีที่แล้ว” ฉันได้ยินแล้วก็ปวดใจอย่างบอกไม่ถูก แต่ฉันกับเว่ยเฉียงรักกันลึกซึ้งแล้ว ฉันถอยไม่ได้

คืนนั้นหลังจากเว่ยเฉียงได้ใบหย่ามา พวกเราก็ดื่มฉลองกัน เขาฉลองเพื่อความสุข ส่วนฉันฉลองเพื่อเรียกพลังในการต่อสู้กับลูกชายเขา ฉันกลัวว่าแต่งไปแล้วจะเข้ากับลูกเขาไม่ได้ แต่เว่ยเฉียงก็บอกว่า เปาๆเป็นเด็กรู้เรื่อง ฉันจะต้องเป็นเหมือนแม่แท้ๆของแกได้แน่นอน ฉันได้ยินก็ซึ้ง คิดไปตามที่เขาบอกว่าวันนึงฉันจะเป็นเหมือนแม่แท้ๆแกได้ แต่ฉันดีใจล่วงหน้านานไปมาก

วันที่ฉันแต่งงานกับเว่ยเฉียง ไม่ค่อยมีเพื่อนๆมาร่วมงานสักเท่าไหร่ บรรยากาศในงานนิ่งสงัด เปาๆก็แอบอยู่หลังพ่อใช้สายตาเย็นชาจ้องฉันตลอดเวลา ฉันรู้สึกได้ว่าในอนาคตฉันต้องเหงาและเจ็บปวด จนอยากจะถอดชุดเจ้าสาวออกแล้ววิ่งหนีไปซะเดี๋ยวนั้นเลย อยากกลับไปกอดแม่ ฉันกำลังเสียใจอย่างถึงที่สุด

หลังแต่งงาน เราสามคนอาศัยอยู่ในบ้าน 2 ห้องนอน 1 ห้องรับแขก เว่ยเฉียงได้เลื่อนขั้น เขาต้องไปทำงานอีกเมืองหนึ่ง กลับมาอยู่บ้านได้อย่างมากก็แค่อาทิตย์ละสองวัน หน้าที่ดูแลเปาๆก็เลยตกเป็นของฉันเต็มตัว ฉันต้องตื่นตั้งแต่ฟ้ายังไม่ทันสางเพื่อมาทำอาหารเช้าให้แก จากนั้นก็ไปส่งที่โรงเรียน แกไม่ยอมให้ฉันเดินข้างๆ ต้องเดินเยื้องไปไม่ด้านหน้าก็ด้านหลัง แม่ลูกคนอื่นจูงมือกันได้ แต่พวกเราทำไม่ได้ ทุกวันตอนบ่ายฉันก็ต้องออกจากออฟฟิศก่อนเวลาเลิกงาน เพื่อมารับแกจากโรงเรียน กลับบ้านไปเตรียมอาหารเย็นให้ แล้วแกเป็นเด็กกินยาก นอกจากเป็ดย่างกับไก่ย่างแล้ว อะไรก็ไม่ชอบ ฉันพยายามโน้มน้าวให้แกกินผักบ้าน แต่แกก็ไม่ฟัง แล้วก็บอกว่าแม่เลี้ยงก็คือแม่เลี้ยง ยังไงก็ไม่ใช่แม่จริงๆ ฉันได้ยินแล้วก็โกรธจนตัวสั่น ที่ฉันทำดีมานี่ไม่ได้ดีอะไรเลย

ฉันพยายามทำให้แกรู้สึกดีกับฉัน ซื้อหนังสือที่ชอบให้ ซื้อของเล่นใหม่ๆ จัดห้องของแกจนเหมือนในการ์ตูน แต่ก็ดูเหมือนจะเสียเวลาเปล่า แกมองฉันด้วยสีหน้าเย็นชากว่าเดิม เวลาที่แกดีใจที่สุดก็คงเป็นตอนที่พ่อแกกลับมาบ้าน 2 วัน สองพ่อลูกคุยกันกระหนุงกระหนิงไม่หยุด ทำให้ฉันกลายเป็นคนนอกที่ต้องมองดูเงียบๆ บางครั้งเปาๆก็จะลากพ่อแกเข้าไปในห้อง พูดอะไรถึงฉันในแง่ร้ายๆ พอเว่ยเฉียงออกมาก็จะด่าว่าฉัน โดยไม่ถามหาความจริงใดๆ

เมื่อพ่อให้ท้าย เปาๆก็นิสัยหยาบคายขึ้นเรื่อยๆ สมบัติทุกอย่างของแม่แก ฉันห้ามแตะเด็ดขาด แกจะจ้องมองดูฉันจากด้านหลัง สองวันที่เว่ยเฉียงกลับมาบ้าน เราแทบไม่มีเวลาได้อยู่ด้วยกัน จะมีอะไรกันก็ต้องแอบๆมี ทุกครั้งที่ฉันอยู่กับเขา ไม่ว่าจะนั่งบนโซฟา เปาๆก็ต้องแทรกมาตรงกลาง หรือไม่ก็ปิดทีวี บอกว่าไม่มีสมาธิทำการบ้าน กลางคืนตอนนอนฉันต้องล็อคกลอน ไม่งั้นเปาๆจะเข้ามาตอนไหนก็ไม่รู้ แล้วก็มานอนระหว่างกลาง ฉันรู้ว่าแกไม่อยากเห็นฉันอยู่กับพ่อแกสองต่อสองโดยลำพัง

แล้ววันนึงฉันก็หมดความอดทน เว่ยเฉียงกลับมาจากทำงาน เรารีบที่จะมีอะไรกันจนลืมล็อคประตู แล้วตอนที่เราสองคนกำลังมีอะไรกันอยู่บนเตียง ก็มีแสงแว่บมาจากตรงประตู ฉันเหลือบไปมอง เห็นเปาๆกำลังแอบดูเราอยู่ แกเห็นฉันก็ไม่ถอย แต่กลับเดินเข้ามาในห้อง จ้องมองมาที่ฉันที่ร่างกายเปลือยเปล่า แล้วฉันจะมีชีวิตต่อไปยังไง! ฉันทนไม่ไหวน้ำตาไหลพราก ร้องไห้ออกมาอย่างไม่สนอะไรอีก

นี่เป็นครั้งแรกที่เว่ยเฉียงดุลูกเพื่อฉัน ไม่ได้โอ๋แกเหมือนเมื่อก่อน ไม่ได้แก้ตัวให้ เปาๆร้องไห้ลั่น ด่าว่าฉันสารพัดว่าเป็นแม่มด ทำให้แม่ของแกอยู่ที่นี่ไม่ได้ แล้วตอนนี้ยังมาเอาพ่อไปอีก

นับจากวันนั้นช่องว่างระหว่างฉันกับเปาๆก็กว้างขึ้นเรื่อยๆ ฉันเคยคิดพยายามจะเป็นแม่เลี้ยงที่ดี แต่ความพยายามของฉันดูจะล้มเหลว เว่ยเฉียงพยายามโน้มน้าวให้ฉันคุยกับลูกเขาดีๆ ใช้ใจแลกใจสักวันต้องเข้ากันได้ แต่ฉันจะรอถึงวันนั้นไหวมั้ย ฉันต้องรออีกนานเท่าไหร่ แค่คิดฉันก็เหนื่อยจนน้ำตาไหล แถมไม่กล้าเล่าให้ใครฟัง ต้องเก็บเอาไว้คนเดียว

เพื่อครอบครัวนี้ เพื่อเว่ยเฉียง ฉันต้องเสียเพื่อนรักที่ดีที่สุดไป พวกเขาพูดลับหลังว่าฉันเป็นมือที่สาม แย่งสามีของคนอื่น ไร้ยางอาย ทุกครั้งที่ได้ยินฉันทุกข์ทรมานใจมาก ตอนนี้อินเตอร์เนตกลายเป็นที่พึ่งอย่างเดียวของฉัน ทุกคืนหลังจากส่งเปาๆเข้านอน ฉันจะนั่งฟุ้งซ่านอยู่หน้าคอมคนเดียว ฉันไม่รู้จะทำยังไงต่อไปดี ความอดทนของฉันจะมีถึงเมื่อไหร่ ฉันไม่รู้ทำยังไงเปาๆถึงจะยอมรับฉัน แล้วชีวิตแบบนี้จะดำเนินไปถึงเมื่อไหร่